เมื่อลูกไม่สบายตัวร้อน เราควรดูแลขั้นต้นอย่างไร

ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่หัวใจหลักของพ่อแม่ทุกคนก็ย่อมให้ความสำคัญกับลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหนก็คอยเป็นห่วงลูก และยิ่งหากลูกน้อยของเราเกิดอาการไม่สบายขึ้นมาพ่อแม่ก็จะพลอยไม่สบายใจไปด้วย แต่ในความกังวลใจนั้นเองก็ทำให้พ่อแม่หลาย ๆ คนเกิดความประหม่าเพราะเมื่อเหตุการณ์เวลาลูกไม่สบายขึ้นมาแล้วจริง ๆ ก็เกิดอาการสับสนจนไม่รู้ว่าจะรับมือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรดี ซึ้งในบทความนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาเรียนรู้กับวิธีรับมือเบื้องต้น เวลาลูกไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราจะต้องรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร อาการเจ็บป่วยเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายของคนทุกคนต้องพบเจอไม่ว่าจะเป็นร่างกายของตัวเราเองหรือร่างกายของคนที่เรารัก ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น พ่อแม่ก็ควรมีวิธีการรับมือที่ดีเนื่องจากลูกน้อยของเราในวัยขนาดนี้ก็ไม่สามารถที่จะบอกอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองได้อย่างเต็มร้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการลูกของเราอยู่ตลอดเวลาว่าลูกมีอาการผิดปกของร่างกายอย่างไร มีอาการอ่อนเพลีย หรือไม่สดใสร่าเริงเป็นปกติหรือไม่ ในขั้นแรกพ่อแม่เมื่อเริ่มสังเกตอาการลูกน้อยจนพบแล้วว่าลูกน้อยมีอาการป่วย หลังจากนั้นหากพ่อแม่มีเครื่องมือวัดอุณหภูมิของร่างกายก็ควรนำเครื่องมือนั้นออกมาวัดอุณหภูมิของลูกตลอด ๆ เพื่อตรวจเช็คอาการ หรือหากไม่มีอุปกรณ์แล้วล่ะก็ให้ใช้หลังมือวัดบริเวณหน้าผากหรือจุดข้อพับต่าง ๆ เพื่อวัดอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งหลังจากตรวจสอบในขั้นตอนนี้แล้วพบว่าอุณหภูมิร่างกายของลูกมีอุณหภูมิสูงให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมอุปกรณ์เพื่อลดไข้ลูก โดยการเช็ดตัวไปตามจุกข้อพับต่าง ๆ หรือ เอาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาวางไว้บริเวณหน้าผากเพื่อทำการลดไข้ แต่การมีอุณหภูมิของร่างกายสูงวิธีรักษาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นการลดอุณหภูมิเสมอไป ดังนั้นหากพบว่าอาการโดยรวมของลูกเมื่อทำการดูแลเบื้องต้นไปแล้วไม่เป็นผล คุณพ่อคุณแม่ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์และปฏิบัติตนตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยก่อนไปพบแพทย์ห้ามหาซื้อยามาทานเองเนื่องจากอาการบางโรคนั้นอาจก่อให้เกิดอาการของโรคเลวร้ายลงทางที่ดีที่สุดก็คือการดูแลเพียงเบื้องต้นและหลังจากนั้นก็รีบนำตัวลูกไปพบแพทย์จะเป็นการดีที่สุด เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากอาการไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ ที่ตามมาจากการปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องนั่นเอง

ผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อสังคมและครอบครัว

ครอบครัวเป็นสถาบันแรกที่ให้ความรักความอบอุ่นและพ่อแม่ก็เป็นบุคคลแรกที่เราจะไว้ใจ เป็นสถาบันแรกจะคอยให้คำแนะนำดูแล แต่ถ้าหากสถาบันครอบครัวที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่สามารถทำหน้าที่ของสถาบันนี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้จากจุดเริ่มต้นของการมีครอบครัวที่ดีที่จะคอยดูแลให้คำแนะนำเรา กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง การทะเลาะเบาะแว้ง จากสถาบันในครอบครัว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่อบอุ่นของครอบครัวก็มักจะมีปัจจัยมาจากหลายปัจจัย แต่หนึ่งในปัจจัยยอดฮิตในสังคมไทยที่สร้างความร้าวฉานในสถาบันครอบครัวอย่างหนึ่งก็เห็นจะเป็นเรื่องของผลกระทบที่เกิดจาก ผลของแอลกอฮอล์ แม้หลายคนจะเห็นสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับกลุ่มคนที่เจอปัญหานั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบในระยะยาวอย่างมากมายเลยจริง ๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมารู้ถึงผลกระทบของเจ้าแอลกอฮอล์ตัวร้ายว่าสามารถทำร้ายสถาบันครอบครัวของเราและต่อสังคมได้อย่างไรบ้าง แอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติดทั้งหลายตามชื่อของมันแล้ว สารประเภทนี้ก็จะมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทเป็นผลให้สูญเสียการควบคุมของร่างกายและพฤติกรรมจนทำให้ขาดสติสัมปชัญญะจนอาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่หลายคนไม่ต้องการมากยิ่งขึ้น อย่างเริ่มต้นจากครอบครัวไปจนสู่สังคมแอลกอฮอล์จากที่กล่าวถึงสรรพคุณข้างต้นว่าแล้ว หลายท่านคงสามารถคาดการณ์ได้ถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอย่างเรื่องครอบครัว แอลกอฮอล์อาจก่อให้เกิดการมีปากเสียงกันได้ในเรื่องต่าง ๆ จากคนที่เคยคิดตริตรองคำพูดต่าง ๆ ออกมาอย่างรอบครอบก็อาจมีภาวะทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เริ่มไม่พูดกันด้วยเหตุด้วยผลจนนำมาสู่การทะเลาะเบาะแว้ง บางรายอาจนำไปสู่การหย่าร้างกันในอนาคตซึ่งในส่วนนี้ก็อาจจะนำปัญหาต่าง ๆ มาสู่ลูก ๆ ของท่านด้วย  โดยในเด็กบางรายอาจคิดว่าบ้านไม่ใช่สถานที่ที่มีความอบอุ่นใจอีกต่อไปอาจเกิดภาวะต่อต้านหรือไปร่วมกับกลุ่มคนที่ไว้ใจเช่นเพื่อนอาจถูกชักชวนไปทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมต่อไป หรือในบางรายอาจซึมซับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากพ่อแม่ผู้ปกครองอีกด้วยซึ่งพฤติกรรมนี้ก็จะทำให้เป็นภัยร้ายกับสังคมต่อไป นอกจากนี้แอลกอฮอล์หากดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ดื่มเองหรือเกิดอุบัติเหตุกับคนบริสุทธิ์ท่านอื่น ๆในสังคมอีกด้วย หลังจากที่ได้ทราบโทษของแอลกอฮอล์กันมาแล้วก็อยากจะฝากให้ทุกท่านตระหนักถึงภัยร้ายจากแอลกอฮอล์ที่จะตามมา และอยากให้ทุกท่านรู้จักยับยั้งช่างใจ ซึ่งหากจำเป็นที่จะต้องดื่มควรดื่มแต่พอประมาณหรือหากมีอาการมึนเมาก็ควรจะรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการเรียกโดยสารรถสาธารณะเพื่อไม่ให้ความประมาทของตนไปคร่าชีวิตของผู้อื่นต่อไป