Problems
ปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในครอบครัว ซึ่งหลักๆ แล้วอาจจะมาจากคู่สามีภารยาเสียมากกว่า ถ้าหากมีลูก ลูกก็จะกลายเป็นเด็กมีปัญหาตามไปด้วย
Understanding
ความเข้าใจกันภายในครอบครัวนั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากปล่อยทิ้งไว้นานไปอาจจะเป็นการสะสมความไม่เข้าใจและทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้
Attitude
ทัศนคติของการมีครอบครัวก็แน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งแรกมันต้องขึ้นอยู่กับความรักกันของคนในครอบครัว ต่อมาต้องรู้จกวางแผนให้ดีๆ โดยเฉพาะเรื่องของอนาคต
Family is important
ครอบครัวคือสิ่งที่ทุกคนต้องมี การใช้ชีวิตไม่มีใครหรอกที่ไม่มีครอบครัว ทำให้เราได้รับความอบอุ่นและมีแรงสู้งานในแต่ล่ะวัน ฉะนั้น จงอย่าเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว
ปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูก การเพิ่มพัฒนาการ ฝึกความจำหรืออื่นๆ
เว็บ Theechocenter.org ได้ถูกจัดสร้างขึ้นเมื่อปลายปี 2558 โดยสร้างขึ้นจากชีวิตจริง เพื่อจะเตือนสติและวางแผนครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม สามารถปรึกษาในเรื่องต่างๆ ได้
Theechocenter.org เว็บไซต์ที่สร้างมาเพื่อให้คนทั่วไป ได้คิดถึงครอบครัวของตนเองมากยิ่งขึ้นว่าสำคัญแค่ไหนและควรทำยังไงถึงจะรักษาครอบครัวให้อยู่รอดตลอดฝั่ง

Weera Sakpong

Benson spasha

Jonh GARCIA

Gritchai LANEson
ความเห็นส่วนรวม
ปรึกษาปัญหาและขอแนะนำในการสร้างครอบครัว
Latest news
อิทธิพลของพ่อแม่ที่มีบทบาทต่อชีวิตลูก
บทบาทสำคัญของพ่อแม่มีส่วนสำคัญที่หล่อหลอมอบรมเลี้ยงดูให้เด็กมีศักยภาพในการใช้ชีวิตในสังคม พ่อแม่ทุกคนล้วนเป็นต้นแบบของลูกๆ เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตและการเลือกเส้นทางเดินต่อไปในอนาคตของลูก จึงควรสนับสนุนให้ทุกครอบครัวมีพื้นฐานของครอบครัวที่ดีเพื่อเป็นพื้นฐานให้กับลูกๆ เพราะพ่อแม่มีส่วนในการสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกๆ 1. ด้านการศึกษา จากการสำรวจทัศนคติและบุคลิกลักษณะของ พ่อแม่ยุคใหม่ จึงมีผลต่อการเรียนการศึกษาของเด็กๆ อีกทั้งจากการใช้กระบวนการวิเคราะห์ปัจจัยรอบด้าน พบว่าจากความเชื่อ ความคาดหวัง ของแต่ละครอบครัวนั้นส่งผลต่อพฤติกรรมในการกำหนดการเรียนรู้ของลูกๆ การมีส่วนร่วมในการช่วยให้เด็กๆได้เรียนรู้ตลอดจนการห่วงใยต่ออนาคตของลูก โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่นำเข้ามาใช้ร่วมกับการศึกษาด้วยแล้ว พ่อแม่หลายคนมักกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนระบบดิจิทัลเป็นอย่างมาก เพราะเทคโนโลยีไร้ขีดจำกัดที่จะส่งผลต่อพัฒนาการด้านทักษะ การเข้าสังคม จะทำลูกๆ ไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตในสังคมเพราะต้องเรียนรู้จากตัวเอง พ่อแม่จึงสนใจการเรียนแบบเดิมมากกว่า และการเรียนผ่านเทคโนโลยีอาจทำให้เด็กๆ ขาดสมาธิได้ง่ายกว่าการเรียนจากหนังสือ ซึ่งในส่วนนี้หากพ่อแม่ที่สามารถสนับสนุนอุปกรณ์ดิจิทัลให้ลูกๆได้ก็จะไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ 2. ด้านความปลอดภัย ครอบครัวที่มีพ่อแม่ที่รักใคร่ ไว้เนื้อเชื่อใจ พึ่งพากันได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ลูกได้รู้สึกถึงความปลอดภัย รู้ว่าที่บ้านที่มีพ่อและแม่อยู่นั้น เป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเขา หากวันที่เขามีเรื่องราวเข้ามาในชีวิต เขาจะคิดถึง พ่อกับแม่เป็นคนแรก พ่อแม่จึงต้องปลูกฝังให้ลูกได้รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยจากสิ่งต่างๆ รอบตัว 3. เสริมสร้างจิตใจที่เข้มแข็ง เมื่อพ่อแม่มีเวลาได้อยูใกล้ชิดลูกๆ ได้รู้จักนิสัยใจคอ ได้เห็นทัศนะคติทางความคิดของลูก จะทำให้พ่อแม่สามารถรู้ปัญหาก่อน อีกทั้งความใกล้ชิดที่ลูกจะให้กลับมานั้นพ่อแม่ต้องทำตั้งแต่เมื่อลูกเป็นเด็ก เด็กจะซึมซับความเป็นผู้นำของพ่อ ความอ่อนโยนจากแม่ เมื่อลูกมีปัญหาก็จะทำให้เขามีจิตใจที่เข้มแข็งเพราะมีพ่อกับแม่เป็นต้นแบบที่ดีทำให้ลูกมีจิตใจทีมั่นคงไม่อ่อนแอกับเรื่องอะไรง่ายๆ 4. Read more about อิทธิพลของพ่อแม่ที่มีบทบาทต่อชีวิตลูก[…]
10 วิธีที่ทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้น
ในการดำเนินชีวิตเราเองก็ต้องพบปะและเจอกับผู้คนมากมาย แต่หนึ่งในสถาบันที่เป็นส่วนในการริเริ่มสร้างความอบอุ่นและความมั่นใจให้กับเราก็คือสถาบันครอบครัวนั่นเอง แน่นอนว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตของใครหลายคน เพราะแน่นอนว่าเมื่อเราเกิดว่าสิ่งแรกที่เรามีที่มอบความรักความเอาใจใส่ให้กับเรานั่นก็คือสถาบันครอบครัวนั่นเอง แน่นอนว่าหากครอบครัวของเราเกิดมีปัญหาหรือมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ก็จะตามมามากมาย แต่หากเราพบว่าครอบครัวของเราเริ่มมีปัญหาหรือมีความไม่เข้าใจกันแล้ว การรีบแก้ปัญหาก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราควรเร่งรีบแก้ไขให้ทันท่วงที เพื่อให้ครอบครัวของเรานั้นมีความสุขมากยิ่งขึ้น และในบทความนี้เราจะมาบอก 10 วิธีที่จะมาทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่ง 10 วิธีนั้นก็มีดังต่อไปนี้ หาเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง การที่ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอบอุ่นนั้นก็ต้องมีความเข้าใจกันซึ่งเวลาเหล่านั้นก็หาได้จากการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวนั่นเอง แชร์เรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของแต่ละคนร่วมกัน ใน 1 วันควรหาเวลามาเล่าเรื่องราวของชีวิตในแต่ละวันของสมาชิกในครอบครัวร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจกัน หาเวลาเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนสำหรับครอบครัวเพื่อสานความสัมพันธ์ในครอบครัว รับประทานอาหารร่วมกัน การรับประทานอาหารร่วมกันบนโต๊ะอาหารถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำใหครอบครัวมีเวลาให้กัน นอกจากนี้ยังสามารถเป็นสถานที่ในการพูดคุยและเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อีกด้วย ลดเวลาส่วนตัวเพิ่มเวลาครอบครัว เช่น การลดเวลาการเล่นโทรศัพท์มือถือลง เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนหน้าที่ในบ้านเพื่อเรียนรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น ในช่วงเวลาที่สับสนหรือท้อใจควรให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างคนในครอบครัวเพื่อให้ผ่านวันร้าย ๆ ไปได้ นอกจากนี้กำลังใจที่ได้จากคนในครอบครัวก็ยังสามารถเป็นแรงผลักดันในพวกเขาพร้อมสู้กับปัญหาต่อไป ควรบอกรักและแสดงความเป็นห่วงคนในครอบครัวอยู่เสมอ เพื่อให้คนในครอบครัวไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่บนโลกเพียงลำพัง อย่าคาดหวังความเพอเฟคจากคนในครอบครัวเพราะพวกเขาจะรู้สึกเหมือนถูกกดดันจนไม่สามารถทำหน้าที่นั้นให้ออกมาได้ดีนั่นเอง หาเวลาว่างในครอบครัวเพื่อมาออกกำลังกายร่วมกัน นอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างร่วมกันแล้วก็ยังเป็นการได้ออกกำลังเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของคนในครอบครัวไปด้วยในตัวเลยเรียกได้ว่าทั้งสุขกายสุขใจไปในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว
ปัญหาครอบครัวเกิดจากอะไร มีทางแก้หรือไม่
ทุกครอบครัวอาจเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ หรือแม้แต่ความรุนแรงในครอบครัวได้ ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นคนที่จิตใจดี คิดบวกมากแค่ไหน เด็กก็ยังคงโต้เถียงและมีประพฤติกรรมที่ก้าวร้าวได้เช่นกัน ความต้องการในชีวิตประจำวันของเรา และของพวกเขา สิ่งเหล่านี้มักจะสร้างความขัดแย้ง หรือความเข้าใจผิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บ่อยครั้งที่มีปัญหาที่เกิดซ้ำๆ เช่นปัญหาในการเตรียมพร้อมไปเรียนในตอนเช้าหรือจะนอนตอนกลางคืน จนถึงการทะเลาะกันหระว่างพี่น้อง ทำให้เกิดความเครียด เหนื่อยล้า สับสน รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีกำลังใจ ทั้งหมดนี้อาจเป็นแค่จุดเริ่มตนของปัญหาร้ายแรงที่จะตามมา หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี แล้วครอบครัวทั้งหลายที่ประสบปัญหาเช่นนี้ เขาใช้วิธีใดมาช่วยแก้ปัญหาครอบครัวเหล่านี้กัน โชคดีที่นักจิตวิทยาครอบครัวได้ทำการสำรวจมาหลายปี ทำให้เรามีแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้ครอบครัวที่กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบาก กลับมาสู่สถานการณ์ปกติได้อีกครั้ง เพียงแต่มันต้องใช้เวลาและความอดทนสูงมาก วิธีการแก้ปัญหาในครอบครัว 1.ขั้นตอนแรกในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเด็กคือ การถอยกลับไปก้าวหนึ่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนตัวให้กับพวกเขาได้ผ่อนคลาย ปัญหาของชีวิตครอบครัวอาจไม่ได้รบการแก้ไขในเชิงรุกได้ดีที่สุดเสมอไป เมื่อเราตอบสนองต่อพฤติกรรมของเด็กเรามักจะตอบสนองไม่ดี เช่น การใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรืออาจถึงพลาดพลั้งตบตีลูกได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากจะทำแน่นอน 2.เมื่อรู้ถึงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก พยายามทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหา ร้อยทั้งร้อยพ่อแม่ที่ใช้คำพูดดุด่า หรือบังคับเด็กให้ทำอะไรก็ตาม สุดท้ายก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว ลองเปลี่ยนมาใช้คำพูดที่มีเหตุผลมากขึ้น เช่น อธิบายว่าทำไมตัวคุณถึงต้องโมโหจนเสียงดังใส่ทุกครั้ง เวลาที่เขาตื่นสายประจำ เด็กจะเรียนรู้ถึงปัญหาและพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น 3.พัฒนาแผน จากประสบการณ์ของพ่อแม่ทุกคนที่เคยผ่านเรื่องเหล่านี้มาก่อน เกือบทุกคนตอบสนองเชิงบวกเมื่อบอกครอบครัวว่า ‘ฉันมีแผน’ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นชีวิตครอบครัว พวกเขาอาจจะสงสัย แต่พวกเขาฟังด้วยความสนใจ ลึกลงไปพวกเขาต้องการแผนมากพอๆกับเรา 4.อย่าลืมให้ความชื่นชม-ยกย่องในความพยายามของลูก Read more about ปัญหาครอบครัวเกิดจากอะไร มีทางแก้หรือไม่[…]
เหตุใดจึงนิยมเอาหลานมาให้พ่อแม่เลี้ยง
ครัวเรือนข้ามรุ่น คืออะไร ? คือ ครัวเรือน ประกอบด้วยคน 2 รุ่น ได้แก่ คนรุ่น ปู่-ย่า , ตา-ยาย กับคนรุ่นหลาน โดยไม่มีคนรุ่นพ่อ – แม่อาศัยอยู่ด้วย จึงทำให้เกิดการแหว่งไป คนรุ่นพ่อ-แม่หายไปไหน? สำหรับคำตอบของปัญหาข้อนี้มาจากหลายเหตุผล บางครอบครัวคนรุ่นพ่อ – แม่ ต้องออกจากบ้านไปทำงานที่อื่น บางครอบครัวพ่อ-แม่เสียชีวิต , บางครอบครัวพ่อแม่เลิกกัน จึงลูกที่เป็นหลานมาให้ปู่-ย่าหรือตา-ยายเลี้ยง แต่การออกจากบ้านไปทำงานต่างจังหวัด เป็นเหตุผลหลักมากกว่าสาเหตุอื่น จากสถิติในปี ค.ศ. 2014 ประเทศไทยมีสภาพครอบครัวประเภทนี้ ถึง 15% แปลว่า ใน 100 ครอบครัว จะมี 15 ครอบครัวที่เป็นครอบครัวข้ามรุ่น ซึ่งมีเพียงปู่-ย่า , ตา-ยาย อยู่ตามลำพังกับหลาน ในอัตราส่วนค่อนข้างสูง โดยสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากการย้ายถิ่นฐานไปทำงานต่างจังหวัดของพ่อ-แม่ จากการศึกษาที่ผ่านมา มักมีการมุ่งเน้นศึกษาเรื่องพ่อ-แม่ย้ายถิ่น ฐานโดยเฉพาะ ในขณะที่สมาชิกครอบครัวอื่นๆอยู่กันตามลำพัง ไม่ค่อยได้รับความสนใจในการเข้าไปศึกษาสภาพความเป็นอยู่ หรือสภาพจิตใจจากนักวิชาการมากเท่าไหร่นัก Read more about เหตุใดจึงนิยมเอาหลานมาให้พ่อแม่เลี้ยง[…]
เมื่อลูกไม่สบายตัวร้อน เราควรดูแลขั้นต้นอย่างไร
ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่หัวใจหลักของพ่อแม่ทุกคนก็ย่อมให้ความสำคัญกับลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหนก็คอยเป็นห่วงลูก และยิ่งหากลูกน้อยของเราเกิดอาการไม่สบายขึ้นมาพ่อแม่ก็จะพลอยไม่สบายใจไปด้วย แต่ในความกังวลใจนั้นเองก็ทำให้พ่อแม่หลาย ๆ คนเกิดความประหม่าเพราะเมื่อเหตุการณ์เวลาลูกไม่สบายขึ้นมาแล้วจริง ๆ ก็เกิดอาการสับสนจนไม่รู้ว่าจะรับมือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรดี ซึ้งในบทความนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาเรียนรู้กับวิธีรับมือเบื้องต้น เวลาลูกไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราจะต้องรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร อาการเจ็บป่วยเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายของคนทุกคนต้องพบเจอไม่ว่าจะเป็นร่างกายของตัวเราเองหรือร่างกายของคนที่เรารัก ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น พ่อแม่ก็ควรมีวิธีการรับมือที่ดีเนื่องจากลูกน้อยของเราในวัยขนาดนี้ก็ไม่สามารถที่จะบอกอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองได้อย่างเต็มร้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการลูกของเราอยู่ตลอดเวลาว่าลูกมีอาการผิดปกของร่างกายอย่างไร มีอาการอ่อนเพลีย หรือไม่สดใสร่าเริงเป็นปกติหรือไม่ ในขั้นแรกพ่อแม่เมื่อเริ่มสังเกตอาการลูกน้อยจนพบแล้วว่าลูกน้อยมีอาการป่วย หลังจากนั้นหากพ่อแม่มีเครื่องมือวัดอุณหภูมิของร่างกายก็ควรนำเครื่องมือนั้นออกมาวัดอุณหภูมิของลูกตลอด ๆ เพื่อตรวจเช็คอาการ หรือหากไม่มีอุปกรณ์แล้วล่ะก็ให้ใช้หลังมือวัดบริเวณหน้าผากหรือจุดข้อพับต่าง ๆ เพื่อวัดอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งหลังจากตรวจสอบในขั้นตอนนี้แล้วพบว่าอุณหภูมิร่างกายของลูกมีอุณหภูมิสูงให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมอุปกรณ์เพื่อลดไข้ลูก โดยการเช็ดตัวไปตามจุกข้อพับต่าง ๆ หรือ เอาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาวางไว้บริเวณหน้าผากเพื่อทำการลดไข้ แต่การมีอุณหภูมิของร่างกายสูงวิธีรักษาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นการลดอุณหภูมิเสมอไป ดังนั้นหากพบว่าอาการโดยรวมของลูกเมื่อทำการดูแลเบื้องต้นไปแล้วไม่เป็นผล คุณพ่อคุณแม่ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์และปฏิบัติตนตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยก่อนไปพบแพทย์ห้ามหาซื้อยามาทานเองเนื่องจากอาการบางโรคนั้นอาจก่อให้เกิดอาการของโรคเลวร้ายลงทางที่ดีที่สุดก็คือการดูแลเพียงเบื้องต้นและหลังจากนั้นก็รีบนำตัวลูกไปพบแพทย์จะเป็นการดีที่สุด เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากอาการไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ ที่ตามมาจากการปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องนั่นเอง
ผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อสังคมและครอบครัว
ครอบครัวเป็นสถาบันแรกที่ให้ความรักความอบอุ่นและพ่อแม่ก็เป็นบุคคลแรกที่เราจะไว้ใจ เป็นสถาบันแรกจะคอยให้คำแนะนำดูแล แต่ถ้าหากสถาบันครอบครัวที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่สามารถทำหน้าที่ของสถาบันนี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้จากจุดเริ่มต้นของการมีครอบครัวที่ดีที่จะคอยดูแลให้คำแนะนำเรา กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง การทะเลาะเบาะแว้ง จากสถาบันในครอบครัว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่อบอุ่นของครอบครัวก็มักจะมีปัจจัยมาจากหลายปัจจัย แต่หนึ่งในปัจจัยยอดฮิตในสังคมไทยที่สร้างความร้าวฉานในสถาบันครอบครัวอย่างหนึ่งก็เห็นจะเป็นเรื่องของผลกระทบที่เกิดจาก ผลของแอลกอฮอล์ แม้หลายคนจะเห็นสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับกลุ่มคนที่เจอปัญหานั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบในระยะยาวอย่างมากมายเลยจริง ๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมารู้ถึงผลกระทบของเจ้าแอลกอฮอล์ตัวร้ายว่าสามารถทำร้ายสถาบันครอบครัวของเราและต่อสังคมได้อย่างไรบ้าง แอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติดทั้งหลายตามชื่อของมันแล้ว สารประเภทนี้ก็จะมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทเป็นผลให้สูญเสียการควบคุมของร่างกายและพฤติกรรมจนทำให้ขาดสติสัมปชัญญะจนอาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่หลายคนไม่ต้องการมากยิ่งขึ้น อย่างเริ่มต้นจากครอบครัวไปจนสู่สังคมแอลกอฮอล์จากที่กล่าวถึงสรรพคุณข้างต้นว่าแล้ว หลายท่านคงสามารถคาดการณ์ได้ถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอย่างเรื่องครอบครัว แอลกอฮอล์อาจก่อให้เกิดการมีปากเสียงกันได้ในเรื่องต่าง ๆ จากคนที่เคยคิดตริตรองคำพูดต่าง ๆ ออกมาอย่างรอบครอบก็อาจมีภาวะทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เริ่มไม่พูดกันด้วยเหตุด้วยผลจนนำมาสู่การทะเลาะเบาะแว้ง บางรายอาจนำไปสู่การหย่าร้างกันในอนาคตซึ่งในส่วนนี้ก็อาจจะนำปัญหาต่าง ๆ มาสู่ลูก ๆ ของท่านด้วย โดยในเด็กบางรายอาจคิดว่าบ้านไม่ใช่สถานที่ที่มีความอบอุ่นใจอีกต่อไปอาจเกิดภาวะต่อต้านหรือไปร่วมกับกลุ่มคนที่ไว้ใจเช่นเพื่อนอาจถูกชักชวนไปทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมต่อไป หรือในบางรายอาจซึมซับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากพ่อแม่ผู้ปกครองอีกด้วยซึ่งพฤติกรรมนี้ก็จะทำให้เป็นภัยร้ายกับสังคมต่อไป นอกจากนี้แอลกอฮอล์หากดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ดื่มเองหรือเกิดอุบัติเหตุกับคนบริสุทธิ์ท่านอื่น ๆในสังคมอีกด้วย หลังจากที่ได้ทราบโทษของแอลกอฮอล์กันมาแล้วก็อยากจะฝากให้ทุกท่านตระหนักถึงภัยร้ายจากแอลกอฮอล์ที่จะตามมา และอยากให้ทุกท่านรู้จักยับยั้งช่างใจ ซึ่งหากจำเป็นที่จะต้องดื่มควรดื่มแต่พอประมาณหรือหากมีอาการมึนเมาก็ควรจะรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการเรียกโดยสารรถสาธารณะเพื่อไม่ให้ความประมาทของตนไปคร่าชีวิตของผู้อื่นต่อไป
สิ่งที่พ่อแม่มือใหม่ควรหยุดทำเมื่อมีลูก
พ่อ – แม่มือใหม่หลายๆคนอาจซึมซับการเลี้ยงลูกจากในสมัยเก่ามา หรือบางเรื่องก็อาจจะยังไม่ทราบเพราะไม่เคยมีลูกมาก่อน ทำให้เกิดการเลี้ยงลูกอย่างผิดๆ ส่งผลให้เด็กมีวิวัฒนาการไม่เหมาะสมตามวัย สำหรับในวันนี้เราจะมาแนะนำสิ่งที่ พ่อ-แม่ควรหยุดทำเมื่อมีลูกกัน หยุดกิจกรรมที่เคยทำเมื่อครั้งยังไม่คลอดลูก สำหรับคุณพ่อ – คุณแม่มือใหม่ จะมีกิจกรรมมากมาย เหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่ได้ หยุดกิจกรรมบันเทิงเริงใจต่างๆ พร้อมแบ่งเวลาเพื่อนำมาดูแลลูกน้อย โดย 5 ขวบปีแรก จะเป็นช่วงเวลาที่ลูกน้อยจะเกิดการเรียนรู้และซึมซับสิ่งต่างๆจากพ่อ – แม่มากที่สุด ทำให้คุณพ่อ – คุณแม่ต้องให้เวลาพร้อมใส่ใจดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกน้อยเกิดพัฒนาการดี หยุดพาเด็กไปในสถานที่แออัด สถานที่แออัด ผู้คนวุ่นวาย , ฝุ่นเยอะ ไม่เหมาะกับเด็กๆเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากพวกเขายังมีภูมิต้านทานโรคต่ำ หากเจ็บป่วยก็อาจมีความรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ก็เป็นได้ หยุดใช้ความรุนแรงต่อหน้าเด็ก โดยความรุนแรง ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น การใช้อารมณ์ความรุนแรงในการเลี้ยงดูเด็ก จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกบอบช้ำ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยวัยเด็กยังไม่อาจแยกแยะแบบผู้ใหญ่ได้ เด็กก็จะจำพฤติกรรมรุนแรงไปใช้ต่อ จนกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป หยุดใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเลี้ยงลูก การใช้ Smart Phone ให้ลูกเล่นเกมจนเกิดความพอดี หรือปล่อยให้รายการทีวีเลี้ยงลูก มีผลการวิจัยว่า เด็กวัย 0-7 ปี ไม่ควรได้รับแสงรังสีจากหน้าจอ LCD Read more about สิ่งที่พ่อแม่มือใหม่ควรหยุดทำเมื่อมีลูก[…]
เลี้ยงลูกไม่ถูกวิธีอาจเกิดผลเสียอะไรได้บ้าง
หลายๆคนมีความรักให้แก่ลูก แต่ด้วยความที่เป็นพ่อ – แม่ มือใหม่อาจยังเลี้ยงลูกไม่ถูกวิธี ซึ่งมันอาจส่งผลกระทบต่อเด็กในระยะยาวได้ โดยวิธีเลี้ยงที่พ่อ-แม่ มักผิดพลาดและควรเลิกทำอย่างเร่งด่วนนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย เลิกคิดว่าเด็ก ยังไงก็ยังเป็นเด็ก ความรักที่พ่อแม่ให้แก่ลูกนั้นเป็นอันเหมาะสม แต่ก็ควรรักลูกอย่างมีสติ ลองปล่อยให้ลูกได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง ช่วยเหลือเขาในเรื่องจำเป็นเท่านั้น เนื่องจากถ้าลูกยังเล็กเกินไป เขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร ซึ่งจุดนี้นี่แหละที่พ่อ-แม่ควรเข้าไปสอน ต่อมาเมื่อลูกโตขึ้น การที่พ่อ –แม่ ตัดสินใจแทนลูกในทุกเรื่อง เท่ากับเป็นการปิดกั้นไม่ให้เด็กมีการพัฒนาทางความคิดและตัดสินใจเอง ต่อมาเมื่อถึงเวลาจำเป็นเขาก็จะทำอะไรไม่ถูก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ห่วงลูกมากจนเกินไป พ่อ-แม่ ย่อมรักลูก ห่วงลูกด้วยกันทั้งนั้น แต่การรักลูกมากจนเกินไป จนยอมทำทุกอย่างแทน ต่อมาเมื่อเขาเจอสถานการณ์ต่างๆตามลำพัง เขาก็จะไม่มีความมั่นใจในการตัดสินใจ ไม่กล้าแสดงออก นอกจากนี้เด็กบางคน เมื่ออยู่ในสภาพที่พ่อแม่สั่งห้ามทำนู้นทำนี่ ก็จะเกิดความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้จริงหรือ เขาก็จะเริ่มหาวิธีค้นหาคุณค่าในตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดีมากกว่าเรื่องดี เพื่อหาการยอมรับให้แก่ตัวเอง เช่น หนีเรียนไปเที่ยวกับเพื่อน เพราะอยากเป็นคนเก่งในสายตาเพื่อน เป็นต้น คิดว่าลูกต้องเดินตามรอยพ่อแม่เท่านั้น หรือผลักดันลูกในสิ่งที่ตัวเองอยากทำแต่ทำไม่ได้ เด็กหลายๆคน เมื่อโดนบังคับมากๆ จนเกิดความกดดันกลายเป็นสติหลุดก็มี เพราะฉะนั้น การที่พ่อ-แม่คอยเจ้ากี้เจ้าการวางแผนเส้นทางชีวิตให้เด็กไว้ วางกรอบ , วางกฎระเบียบอันเข้มงวด ให้ลูกดำเนินชีวิตอย่างไม่มีผ่อนปรน Read more about เลี้ยงลูกไม่ถูกวิธีอาจเกิดผลเสียอะไรได้บ้าง[…]
พาคุณแม่เปิดหูเปิดตา เพื่อสร้างครอบครัวให้อบอุ่นกว่าเดิม
สำหรับสังคมไทยสายใยในครอบครัวถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะการที่เราครอบครัวที่อบอุ่นจะทำให้บ้านของเรานั้นมีแต่ความสุข และสามารถดำเนินชีวิตได้ดีกว่าคนที่มีครอบครัวที่ไม่อบอุ่น เพราะการมีครอบครัวที่อบอุ่นนั้นจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี คำว่าครอบครัวที่อบอุ่นของทุกบ้านอาจจะมีความหมายที่แตกต่างกัน สำหรับครอบครัวที่มีคนพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครอบครัวใหญ่มีพ่อ แม่ ลูก คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ครอบครัวนั้นถือว่าได้เปรียบกว่าครอบครัวอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้มีครอบครัวที่พร้อมหน้ากันแบบนี้ วันนี้บทความที่เราจะมาเขียนนั้นเราจะมาเขียนเกี่ยวกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานหนักเพื่อทำทุกอย่างให้ลูกไม่คิดว่าตนเองรู้สึกว่าขาดอะไรไป คนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นถือว่าเป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆ คนนึง ที่สามารถทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำงานเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ทำกับข้าว หน้าที่ในความเป็นแม่ และยังต้องทำหน้าที่ของความเป็นพ่ออีก ซึ่งอยากให้ลูกทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่นั้นได้รู้ว่าคุณแม่ของคุณเก่งมากจริงๆ ดังนั้นคุณควรทำทุกสิ่งเพื่อตอบแทนท่านให้ท่านได้มีความสุขมากที่สุด เพราะกว่าที่คุณจะโตมาขนาดนี้สิ่งที่ท่านทุ่มเทให้คุณ เชื่อเถอะว่าคุณไม่สามารถตอบแทนท่านได้หมดอย่างแน่นอน การตอบแทนคนที่คุณรักอย่างคุณแม่นั้นเชื่อเถอะว่าไม่ว่าคุณจะทำอะไรให้กับท่าน ท่านก็มีความสุขมากที่สุด ซึ่งการที่คุณจะทำให้ท่านมีความสุขมีวิธีมากมายหลากหลาย ซึ่งการที่ได้พาท่านไปเปิดหูเปิดตาก็เป็นอีกวิธีนึงที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้ดีมากกว่าเดิม เพิ่มความสุขมากไปอีก ทีนี้เราจะมาบอกเหตุผลกับคุณว่าทำไมถึงต้องพาคุณแม่ไปเปิดหูเปิดตาด้านนอกบ้าง ? ซึ่งวันนี้เราจะยกตัวอย่างมา 5 ข้อให้คุณได้รู้ สาเหตุที่ต้องพาแม่ออกไปเที่ยวนอกบ้าน เมื่อคุณลองอยู่บ้านทุกวันๆ อยู่ในที่เดิมๆ ตลอดคุณก็คงจะรู้สึกเบื่อที่จะต้องอยู่ในพื้นที่เดิมๆ โดยที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย อาจจะทำให้คุณแม่ของคุณดูไม่ร่าเริงเท่าไหร่นัก การที่คุณพาท่านไปเปิดหูเปิดตา จะทำให้ท่านได้พบเจอกับสิ่งใหม่ๆ แถมยังสร้างความสุขทางใจให้ท่านได้อีกด้วยนะ ให้แม่ได้เปลี่ยนบรรยากาศเพื่อปลดปล่อยความเครียดที่มี ด้วยเสียงหัวเราะ พาแม่ออกไปทานข้าวนอกบ้านบ้าง เพื่อให้แม่รู้สึกว่าเราใส่ใจที่จะพาท่านไปคลายเครียด วันว่างๆ อาจจะหาเวลาพาคุณแม่ไปปิกนิกชิลล์ๆ กลางสนามหญ้า หาอะไรกินด้วยกัน หากิจกรรมทำด้วยกันจะทำให้ท่านมีอารมณ์แจ่มใสขึ้นนะ พาแม่ได้ไปเห็น Read more about พาคุณแม่เปิดหูเปิดตา เพื่อสร้างครอบครัวให้อบอุ่นกว่าเดิม[…]
กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครวบครัวสร้างสัมพันธ์ให้แน่นขึ้นจริงหรือไม่
การมีครอบครัวที่อบอุ่นถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่จะสร้างสุขภาพจิตที่ดีกับทุกคน ทำให้คนเหล่านั้นมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่ว่าครอบครัวไหนที่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าหลังจากที่เราได้ทำงาน เรียน หรือทำหน้าที่อะไรก็แล้วแต่เสร็จสิ้นแล้ว สิ่งที่คุณคิดเป็นอันดับแรกเลยนั่นก็คือ อยากกลับบ้าน อยากทำกิจกรรมต่างๆ กับคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร เล่นกีฬา หรือมาทำอาหารด้วยกัน จุดเริ่มแรกของการมีครอบครัวที่มีความสุขนั่นก็คือการได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ซึ่งเวลานั้นก็มีอยู่ในทุกๆ วันในบ้านนั่นก็คือช่วงเวลาแห่งการรับประทานอาหารบนโต๊ะอาหารที่เราคุ้นเคยในบ้านนั่นเอง ได้นั่งกินข้าวเล่าเรื่องต่างๆ เล่าประสบการณ์ในแต่ละวันให้กับคนในบ้านได้รู้ว่าวันนี้เราได้ไปเจออะไรมาบ้าง แต่ในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่มักจะเน้นความสะดวกก่อนที่จะเข้าบ้านก็คือจะหาอะไรทานข้างนอกก่อนที่จะเข้ามาในบ้าน จึงทำให้ความสัมพันธ์ในบ้านเริ่มเหินห่างไปเรื่อยๆ วันนี้เราจะงัดวิธีเด็ดในการกระชับความสัมพันธ์ให้แก่ครอบครัว แล้วแต่ละวิธีนั้นจะมีอะไรบ้าง ตามมาอ่านบทความด้านล่างนี้ได้เลย ในเมื่อตอนเย็นทานอาหารพร้อมกันไม่ได้ ก็เปลี่ยนมารับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน เพื่อที่จะได้พูดคุยเรื่องราวของแต่ละคน ดังนั้นการรับประทานอาหารในตอนเช้าพร้อมกันถือว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดี ไปเที่ยวต่างจังหวัดทั้งครอบครัว เพื่อภายในครอบครัวของเราจะได้สนทนากันในเรื่องราวใหม่ๆ ที่จะเกิด เพื่อให้คนในครอบครัวนั้นรู้สึกว่ายังมีความสำคัญกับอีกคนอย่างสม่ำเสมอ พาคนในครอบครัวไปดูหนังด้วยกัน ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมที่ดี ที่สามารถสร้างกระชับภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แถมการที่ได้ไปดูหนังด้วยกัน ยังสามารถฝึกให้เด็กๆ ในบ้านได้รู้จักแสดงความคิดเห็นออกมาได้อีกด้วย หากิจกรรมใหม่ๆ ทำร่วมกันในบ้าน หรือครอบครัวอยู่เสมอ อาทิเช่น ทำขนม ทำอาหาร ศิลปะ หรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ รวมไปถึงจัดสวนเพื่อเด็กๆ ภายในบ้านนั้นไม่รู้สึกว่าเหินห่างจากคนในบ้าน และยังมีความสำคัญกับพ่อแม่อยู่เสมอ จับกลุ่มเชียร์กีฬาด้วยกันไม่ว่าจะเป็นวอลเลย์บอล ฟุตบอล บาสเก็ตบอล เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้อยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานไม่น่าเบื่อ แถมยังมีเรื่องราวต่างๆ มาสนทนากันได้อีกด้วย สร้างช่องแชทภายในครอบครัว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทุกคนสามารถทำให้คนในครอบครัวรู้สึกว่าได้ไกล้ชิดกัน มีการบอกเล่าเรื่องราว Read more about กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครวบครัวสร้างสัมพันธ์ให้แน่นขึ้นจริงหรือไม่[…]